เมื่อเราๆๆท่าน ๆๆ พูดถึงพระเกจิอาจารย์ผู้สร้างพระเครื่องที่โด่งดังทางแคล้วคลาด มหาอุด และคงกระพันชาตรี นักพระเครื่องส่วนใหญ่ต่างยกย่อง หลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก จ.นครปฐม ว่าเป็นเลิศในทางนี้ครับ พระเครื่องที่ผู้คนสนใจเช่าหา คือ เหรียญหล่อโบราณ พิมพ์พระพุทธ เนื้อทองผสม มีอยู่ ๒ รุ่นด้วยกัน และไม่เอ่ย ไม่ได้ ตะกรุดไม้ไผ่มหาอุต ขนาดเท่าถ่ายไฟฉายสมัยก่อน ** หลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก เดิมท่านเป็นชาวโพธาราม จ.ราชบุรี เกิดเมื่อ พ.ศ.๒๓๗๙ ในสมัยรัชกาลที่ ๓ อุปสมบท ณ วัดบ้านฆ้อง ท่านได้ตั้งใจศึกษาทั้งพระธรรมวินัย และฝึกปฏิบัติพระกรรมฐาน จนสามารถเรียนรู้คาถาอาคมต่างๆ มากมาย จากนั้นจึงได้ออกเดินธุดงค์ไปตามที่ต่างๆ เป็นเวลานานปี จนมาถึงบริเวณที่เป็น วัดพะเนียงแตก ในทุกวันนี้ ที่เรียกชื่อวัดนี้ ก็เพราะ หลวงพ่อทา ท่านได้เอานิ้วอุดกระบอกไฟพะเนียง ที่ชาวบ้านจุดกัน ปรากฏว่า กระบอกไฟพะเนียงระเบิดแตกออก แต่มือท่านไม่เป็นอะไรเลย ชาวบ้านจึงเรียกวัดนี้ วัดหลวงพ่อพะเนียงแตก และหดสั้นเหลือ วัดพะเนียงแตก ในเวลาต่อมา ในสมัย ร.๕ ทรงบูรณปฏิสังขรณ์องค์ พระปฐมเจดีย์ และทรงแต่งตั้งพระเถระ ๔ รูป เพื่อทำหน้าที่พิทักษ์และเฉลิมพระเกียรติองค์พระปฐมเจดีย์ หลวงพ่อทา มรณภาพเมื่อปี ๒๔๖๓ สิริรวมอายุ ๘๔ปี /// ตะกรุดหลวงพ่อทา วัดพะเนียงเเตก มีกระบอกไม้ไผ่ม้วนใบลานที่ลงอักขระ 3 เเถว ลายมืองดงาม อุดด้วยรังหมาร่า หัว+ท้าย ตะกรุดใบลานของหลวงพ่อทาไม่ใช่จะอยู่ในไม้ไผ่เสมอไป ในยุคเเรกๆของท่านจะม้วนเเบบของหลวงพ่อเเก้ว วัดพวงมาลัย เเต่คนจะไม่รู้จักกัน เเล้วเหมาเป็นหลวงพ่อเเก้วหมด สาเหตุที่หลวงพ่อทานำตะกรุดใบลานใส่ในไม้ไผ่เนื่องจาก คนที่ได้ตะกรุดใบลานเเล้วนำไปใช้มักเกิดการเสียหายเพราะโดนน้ำเนื่องจากในสมัยนั้นผู้คนทำไร่ทำนากัน เมื่อเป็นเช่นนี้ท่านจึงนำไปใส่ในไม้ไผ่เเล้วอุดด้วยรังหมาร่าแล้วถักเชือกด้วยหัวพระรอดอีกชั้นหนึ่งนับเป็นความชาญฉลาดของท่าน เป็นตะกรุดหยุดมัจจุราช ที่โด่งดัง ในเรืองมหาอุต สุด ๆๆๆ ครับ /// ดอกนี้ สันนิฐานเอาว่าเจ้าของเดิมคงใส่มาแบบสมบุกสมบัน เชือกลายขบฟันน่าจะขาดไปเกือบหมด ก็เลยดึงเชือกออกหมด เพื่อไปเลี่ยมหรือถักเอาไว้ใช้ไหม่ แต่ด้านในมีรอยลั่นของไม่ไผ่เห็นใบลานตรงกลางชัดเจนมากครับ ... เอาไว้ใช้พึ่งพุทธคุณได้เลย..เพราะด้านในคือหัวใจของตะกรุดดอกนี้นั่นเอง // ล.ค ประจำที่พิจิตร โทรมาจองเอาไว้แล้วครับ